YCH GROUP บทความ

การซีลบลิสเตอร์ Blister packaging sealing
ระบบซีลของเครื่องบลิสเตอร์ (Blister Packaging Machine Seal System) เป็นกระบวนการที่ใช้ในการปิดผนึกบรรจุภัณฑ์ที่มีรูปแบบเป็นแผ่นพลาสติก (Blister) ซึ่งใช้สำหรับบรรจุยา ผลิตภัณฑ์อาหาร หรือสินค้าต่าง ๆ ในการป้องกันความชื้น แสง และการปนเปื้อนต่าง ๆ ในระหว่างการจัดเก็บและการขนส่ง กระบวนการนี้มีความสำคัญมากเพื่อให้ผลิตภัณฑ์ได้รับการปกป้องอย่างดี โดยทั่วไป ระบบซีลของเครื่องบลิสเตอร์จะมีขั้นตอนหลัก ๆ ดังนี้:
1. กระบวนการซีล (Sealing Process)
ระบบซีลจะทำการเชื่อมต่อหรือปิดผนึกระหว่าง แผ่นพลาสติก (Blister) ที่มีผลิตภัณฑ์อยู่ภายในกับ แผ่นฟอยล์หรือวัสดุที่เป็นซีล ซึ่งวัสดุที่ใช้ในการซีลมักจะเป็นฟอยล์อลูมิเนียมหรือฟิล์มพลาสติกที่สามารถใช้ความร้อนเพื่อปิดผนึกได้
กระบวนการซีลนี้มีขั้นตอนหลัก ๆ ดังนี้:
-
การให้ความร้อน: เครื่องบลิสเตอร์จะใช้แผ่นร้อน (Heated Seal Bar) หรือการให้ความร้อนจากด้านล่างหรือด้านบนของบลิสเตอร์ เพื่อให้วัสดุฟอยล์หรือลามิเนตสามารถติดกับพลาสติกได้
-
การกดและบีบให้แน่น: เมื่อความร้อนมีอุณหภูมิที่เพียงพอแล้ว จะมีการกดแรงเพื่อให้วัสดุซีลยึดติดกับแผ่นพลาสติกอย่างแน่นหนา และไม่สามารถเปิดได้ง่าย ๆ
-
การระบายความร้อนและการตั้งตัว: หลังจากซีลเสร็จแล้ว แผ่นบลิสเตอร์จะเย็นลง และวัสดุซีลจะถูกตั้งตัวเพื่อให้การบรรจุผลิตภัณฑ์มีความทนทาน
2. ประเภทของระบบซีล
-
ซีลแบบความร้อน (Heat Sealing): กระบวนการที่ใช้ความร้อนในการทำให้ฟิล์มหรือวัสดุซีลละลายและยึดติดกับแผ่นพลาสติก โดยวัสดุที่ใช้มักจะเป็น ฟอยล์อลูมิเนียม หรือ ฟิล์มพลาสติก ซึ่งเป็นที่นิยมสำหรับการบรรจุยาในบลิสเตอร์
-
ซีลแบบแรงกด (Pressure Sealing): บางเครื่องใช้แรงกดเพื่อปิดผนึกวัสดุ โดยไม่ใช้ความร้อนในการเชื่อมวัสดุ อาจจะเหมาะกับผลิตภัณฑ์บางประเภทที่ไม่สามารถทนความร้อนได้
-
ซีลแบบการใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (Induction Sealing): ใช้เทคโนโลยีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเพื่อสร้างความร้อนในฟอยล์แล้วบีบให้แน่นเข้ากับพลาสติก ซึ่งมักใช้ในบรรจุภัณฑ์ที่ต้องการการซีลที่มีความหนาแน่นสูง
3. ประเภทของวัสดุซีล
-
ฟอยล์อลูมิเนียม: ใช้ในการซีลที่ต้องการความทนทานในการป้องกันแสงและความชื้น โดยเฉพาะการบรรจุภัณฑ์ยาและผลิตภัณฑ์ที่มีอายุการเก็บรักษานาน
-
พลาสติกฟิล์ม: ใช้ในบรรจุภัณฑ์ที่ไม่ต้องการป้องกันแสงหรือความชื้นมากนัก หรือสำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีระยะเวลาการเก็บรักษาสั้น
-
ฟิล์มลามิเนต (Laminated Films): ใช้ในการบรรจุผลิตภัณฑ์ที่มีหลายชั้นของวัสดุ เช่น พลาสติก ฟอยล์ และสารเคลือบต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความทนทานและความสามารถในการป้องกัน
4. การควบคุมคุณภาพในการซีล
การควบคุมคุณภาพของการซีลในเครื่องบลิสเตอร์สำคัญมากเพื่อให้มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ที่บรรจุในบลิสเตอร์จะได้รับการปกป้องอย่างดี การตรวจสอบคุณภาพที่ทำได้รวมถึง:
-
การทดสอบแรงดึง (Tensile Test): การทดสอบการยึดติดของวัสดุซีลโดยการดึงวัสดุที่ซีลดูว่าแน่นและไม่หลุด
-
การทดสอบการปิดผนึก: ตรวจสอบการปิดผนึกว่ามีการซีลที่แน่นหนาหรือไม่ และไม่มีช่องว่างที่อาจทำให้เกิดการปนเปื้อน
-
การทดสอบความสมบูรณ์ของการซีล: ตรวจสอบว่าการซีลมีความทนทานและไม่มีการรั่วไหลจากแผ่นพลาสติกหรือฟอยล์
5. ข้อดีของการใช้ระบบซีลในเครื่องบลิสเตอร์
-
ป้องกันการปนเปื้อน: การซีลช่วยป้องกันผลิตภัณฑ์จากมลภาวะภายนอก เช่น ความชื้น, ฝุ่น, แสง, และออกซิเจน
-
รักษาคุณภาพสินค้า: การซีลที่ดีช่วยรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ เช่น ยา หรืออาหาร
-
การใช้งานที่สะดวก: การใช้บลิสเตอร์ช่วยให้การใช้ผลิตภัณฑ์สะดวกและง่ายขึ้น เช่น การใช้ยาโดยไม่ต้องเปิดห่อ
6. ข้อจำกัดและปัญหาที่อาจเกิดขึ้น
-
การซีลที่ไม่ดี: หากอุณหภูมิไม่พอหรือการกดไม่เพียงพอ อาจทำให้การซีลไม่ทนทาน
-
วัสดุซีลผิดประเภท: การเลือกใช้วัสดุไม่เหมาะสมอาจทำให้การซีลไม่ได้ผล หรือการบรรจุภัณฑ์ไม่สามารถปกป้องผลิตภัณฑ์ได้อย่างที่ต้องการ
-
ปัญหาการซีลที่ไม่สมบูรณ์: อาจเกิดจากการทำงานของเครื่องที่ไม่เสถียร หรือการควบคุมอุณหภูมิที่ผิดพลาด
การใช้ระบบซีลในเครื่องบลิสเตอร์เป็นเทคโนโลยีที่สำคัญในกระบวนการบรรจุภัณฑ์ ช่วยให้ผลิตภัณฑ์มีความปลอดภัยจากการปนเปื้อนและสามารถเก็บรักษาได้นาน นอกจากนี้ยังช่วยให้การใช้งานสะดวกมากขึ้นและทำให้ผลิตภัณฑ์ดูมีคุณภาพมากขึ้น